Islam//ศาสนาอิสลาม
ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาที่มีอายุน้อยสุดในโลกจากสามศาสนาที่ได้ก่อตั้งขึ้นในตะวันออกกลาง ศาสนายิวหรือยูดายและศาสนาคริสต์เป็นอีกสองศาสนาที่ได้ก่อตั้งขึ้นในตะวันออกกลาง เช่นเดียวกันกับชาวยิวและชาวคริสต์ ชาวมุสลิมคือการนับถือพระเจ้ามีเพียงองค์เดียว ดังนั้นจึงเรียกศาสนาเหล่านี้ว่า “ศาสนาเอกเทวนิยม”
ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาใหญ่อันดับสองของโลก รองจากศาสนาคริสต์ มีผู้นับถือศาสนาอิสลามประมาณ 1,7 พันล้านคนในทั่วโลก ผู้คนที่นับถือศาสนาอิสลามเรียกว่า”ชาวมุสลิม” สังคมหรือชุมชนมุสลิมเรียกว่า “อุมมะฮ์ (umma)” ในภาษาอาหรับหรือภาษาอารบิค ฮุมมะฮ์แบ่งออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ๆ คือมุสลิมนิกายสุนหนี่และมุสลิมนิกายชีอะห์ ท่านศาสดามูฮัมมัดได้ก่อตั้งศาสนาอิสลามขึ้นเมื่อประมาณปี คศ. 610 ที่เมืองเมกกะ เมืองนี้เป็นเมืองที่ท่านกำเนิด เมืองเมกกะอยู่ในประเทศซาอุดิอาระเบีย ศาสดามูฮัมมัดเสียชีวิตในปี คศ. 632
พระคัมภีร์อัลกุรอานและสุนัต
พระคัมภีร์อัลกุรอานคือหนังสือศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญที่สุดในศาสนาอิสลาม ตามคำกล่าวศาสนาอิสลาม พระคัมภีร์อัลกุรอานเป็นคำสอนพระวจนะต่างๆจากพระองค์เจ้าที่พระศาสดามูฮัมมัดได้ฟังมา พระคัมภีร์อัลกุรอานต้นฉบับเขียนเป็นภาษาอาหรับ
พระคัมภีร์อัลกุรอานประกอบด้วย 114 บท(ซูเราะห์) แต่ละบท จะจัดเรียงลำดับตามความยาวของบท บทที่ยาวที่สุดจะอยู่ก่อน และบทที่สั้นที่สุดจะอยู่ตอนท้าย แต่ยกเว้นบทแรกที่เป็นบทนำสวดอัลฟาติฮะห์(al-Fatiha) เป็นบทสั้นๆ ชาวมุสลิมจะจูบพระคำภีร์อุลกุรอานก่อนการอ่าน
ในหลายศตวรรษหลังจากที่พระมูฮัมมัดเสียชีวิต เรื่องเล่าถึงสิ่งที่ท่านได้พูดและได้ทำ ซึ่งถูกบันทึกไว้ในหนังสือที่เรียกว่า “สุนัต”(hadith) ทั้งพระคัมภีร์อัลกุรอานและสุนัตเป็นคำสอนให้รู้ถึงวิธีการดำรงชีวิตที่ถูกต้องและดีงามสำหรับชาวมุสลิม
หลักปฏิบัติศาสนกิจห้าประการ(อัรกานุลอิสลาม)
ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาแห่งกฎหลัก นั่นหมายถึงกฎหมายและข้อบังคับต่างๆที่บันทึกไว้ว่าอะไรถูกอะไรผิด และอะไรที่ชาวมุสลิมต้องปฏิบัติ ทั้งหมดนี้ได้อธิบายในหลักปฏิบัติศาสนกิจห้าประการของศาสนาอิสลาม
การปฏิญาณตนในความศัทธา
การปฏิณาณตนในความศัทธาหรือชะฮาดะฮ์ เป็นหลักปฏิบัติศาสนกิจแรกของหลักทั้งห้าประการของศาสนาอิสลาม ซึ่งออกเสียงเป็นภาษาอาหรับว่า “Ashhadw ana la ila Allah wa ashhadw ana Mohammad rasol Allah“. ซึ่งแปลเป็นภาษานอร์เวย์ว่า “ไม่มีพระเจ้าองค์ใดนอกจากพระอัลเลาะห์ และมูฮัมมัดคือศาสดาของพระองค์”
การละหมาดหรือการสวดมนต์
หลักปฏิบัติศาสนกิจที่สองคือศอลาตหรือการสวดมนต์ ชาวมุสลิมจะต้องละหมาดต่อพระอัลเลาะห์ห้าครั้งต่อวัน ชาวมุสลิมจะละหมาดบนพรมละหมาดที่ปูไว้ในทิศทางให้ร่างกายหันไปทางเมืองเมกกะ
ที่สำคัญคือร่างกายต้องสะอาดก่อนการละหมาด บทสวดละหมาดเป็นภาษาอาหรับและประกอบด้วยบทสวดจากพระคัมภีร์อัลกุรอาน การละหมาดจะมีการเคลื่อนไหวร่างกายในท่าทีที่กำหนดไว้ คือ ยืน โค้งตัว คุกเข่าโดยหน้าผากและมือแตะที่พื้น และนั่งลง การละหมาดวันศุกร์คือการละหมาดร่วมกันในมัสยิดในเวลาเที่ยงวันของวันศุกร์ การละหมาดวันศุกร์นั้นเป็นหนึ่งในห้าของละหมาดประจำวัน นอกจากการละหมาดร่วมแล้ว ยังเขายังได้ฟังธรรมเทศนาด้วย ผู้นำการละหมาดและเทศนาเรียกว่า “อิหม่าม”
เงินสมทบสวัสดิการเพื่อผู้ยากไร้
หลักปฏิบัติศาสนกิจที่สามคือเงินสมทบสวัสดิการเพื่อผู้ยากไร้หรือซะกาต ซะกาตคือค่าธรรมเนียมอย่างหนึ่ง ซึ่งจะมากหรือน้อยอยู่ขึ้นกับรายได้ เครื่องประดับ และอสังหาริมทรัพย์ของคนคนนั้น เงินจำนวนนี้จะบริจาคให้กับผู้ยากไร้
การถือศีลอด
การถือศีลอดคือหลักปฏิบัติศาสนกิจที่สี่ในศาสนาอิสลาม การถือศีลอดอยู่ในเดือนรอมะฎอน ซึ่งหมายความว่าจะไม่มีการดื่มหรือทานอาหารตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนถึงพระอาทิตย์ตกดิน เด็กๆไม่จำเป็นต้องอดอาหาร หลังจากพระอาทิตย์ตกดินแล้ว ครอบครัวจะรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน ที่เรียกว่า “อิฟตาร์” ในช่วงถือศีลอดหรือเดือนรอมฎอน ความหมายที่สำคัญคือการแสดงความขอบคุณต่อสิ่งที่เรามี และแสดงความเห็นอกเห็นใจต่อผู้ที่มีน้อยกว่า
การเดินทางแสวงบุญ
หลักปฏิบัติศาสนกิจที่ห้าคือการเดินทางไปแสวงบุญที่เมืองเมกกะ เป้าหมายคือการประกอบพิธีฮัจย์ มีพิธีกรรมหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับการประกอบพิธีฮัจย์ พิธีกรรมทั้งหมดเหล่านี้จะต้องทำให้ครบ เพื่อที่การเดินทางแสวงบุญนั้นจะเป็นฮัจย์ที่สมบูรณ์แบบ หนึ่งในพิธีกรรมนั้น คือ การเดินรอบกะฮ์บะฮ์เจ็ดรอบ กะฮ์บะฮ์มีความศักดิ์สิทธิ์เพราะเป็นหินสีดำ ตามความเชื่อของศาสนาอิสลามแล้ว หินนี้ดั่งเดิมมาจากสวรรค์ที่ถูกส่งมายังโลกมนุษย์โดยนางฟ้ากาบริเอล
ชาวมุสลิมจะเดินทางไปแสวงบุญหนึ่งครั้งในช่วงชีวิตของเขา ถ้าหากพวกเขามีโอกาส ทุกๆปีจะมีชาวมุสลิมประมาณสามถึงสี่ล้านคนเดินทางไปเมืองเมกกะ
กะฮ์บะฮ์ตั้งอยู่ภายในมัสยิดใหญ่ในเมืองเมกกะ Bilde: Pixabay, Konevi