Jødisk påske // เทศกาลอีสเตอร์ของชาวยิว
เมื่อพระเยซูขี่ลาเข้าไปในเมืองเยรูซาเล็มในวันใบลานศักดิ์สิทธิ์นั้น พระเยซูและลูกศิษย์ทั้งหลาย ได้เดินทางไปร่วมเฉลิมฉลองประเพณีอีสเตอร์ของชาวยิว ที่เรียกว่า ปัสก้า(Pesach)
ปัสก้า เป็นพิธีอีสเตอร์ของชาวยิว และเป็นวันรำลึกถึงชาวอิสราเอล ที่เคยเป็นทาสของอียิปต์ ภายใต้การปกครองของฟาโรห์

เรื่องราวเกี่ยวกับ โมเสส
ในหนังสือโมเสสเป็นคัมภีร์เล่มแรก เราสามารถเข้าไปอ่านเรื่องราวของชาวอิสราเอล ที่ได้ย้ายเข้าไปอาศัยอยู่ในประเทศอียิปต์
หลังจากนั้นไม่นาน ฟาโรห์ผู้มีอำนาจสูงสุดของอียิปต์ ได้เกิดความกังวลว่าจะมีชาวอิสราเอลมาอยู่มากเกินไป จึงจับให้ชาวอิสราเอลไปเป็นทาส และออกคำสั่งให้ฆ่าเด็กทุกๆคนที่เกิดมาเป็นผู้ชาย มารดาของโมเสสไม่ต้องการให้ลูกชายของตนถูกฆ่าตาย จึงนำเอาลูกชายไปใส่ในตะกร้า ปล่อยลอยน้ำไปในแม่น้ำไนล์ โดยหวังว่าจะมีคนพบเห็นและนำเขาไปเลี้ยงดู เจ้าหญิงพระธิดาของฟาโรห์ ได้เป็นผู้พบเห็นตระกร้าที่โมเสสนอนอยู่ ในแม่น้ำไนล์นั้น จึงได้นำเขาไปเลี้ยงดูเป็นอย่างดี ดังนั้นโมเสสจึงได้เติบโตอยู่ในครอบครัวของฟาโรห์

เมื่อโมเสสเติบโตเป็นผู้ใหญ่ พระเจ้าได้แสดงตนให้โมเสสเห็น ในรูปของเปลวไฟหนาม พระเจ้าได้บอกให้เขาช่วยเหลือเหล่าทาสในอียิปต์ ซึ่งจริงๆ แล้วโมเสสก็เป็นชาวอิสราเอลคนหนึ่ง พวกทาสได้รับความทุกข์ทรมานอย่างมาก จากคนที่ท่านเรียกว่าพระบิดา พระเจ้าได้บอกให้โมเสสไปขอร้องพ่อของเขา ให้ปล่อยพวกทาสให้เป็นอิสระ โมเสสจะต้องเป็นผู้นำชาวอิสราเอลออกจากอียิปต์ ไปยังประเทศอื่นที่เรียกว่า คานาอัน

ภัยพิบัติสิบอย่างในประเทศ และอีสเตอร์แรก
โมเสสได้ไปพบฟาโรห์ เพื่อขอร้องให้ปลดปล่อยชาวอิสราเอลให้พ้นจากการเป็นทาส แต่ฟาโรห์ ปฏิเสธ พระเจ้าจึงสาปให้ประเทศเกิดภัยพิบัติสิบอย่าง เช่น โรคระบาด ความมืด และ ตั๊กแตน และที่เลวร้ายที่สุด ของเรื่องร้ายๆ คือ การที่พระเจ้าส่งทูตแห่งความตายมาบนถนนในเมือง และฆ่าลูกคนแรกของชาวอียิปต์ทุกครอบครัว
ชาวอิสราเอลได้รับสัญญาณเตือนแล้ว จากพระเจ้าผ่านโมเสส จึงหาทางรอดได้จากทูตแห่งความตาย โดยการฆ่าแกะ ๑ ตัว แล้วเอาเลือดแกะมาทาหน้าประตูบ้าน ทูตแห่งความตายเมื่อเห็นเลือด จึงเดินผ่านบ้านนั้น ไปยังบ้านอื่น ๆ เพื่อยุติความเลวร้ายเหล่านี้ ฟาโรห์ จึงยอมให้ชาวอิสราเอลเหล่านั้น เดินทาง ออกจากอียิปต์ได้ เหตุการณ์ครั้งนั้น เป็นจุดกำเกิดอีสเตอร์ของชาวยิว

ชาวยิวฉลองอีสเตอร์กันอย่างไร
ในคืนแรกของเทศกาล ปัสกา ของชาวยิว พวกเขาจะรับประทานอาหารที่เรียกว่า sedermåltid หรืออาหารที่ฝังใจ อาหารมื้อนี้จะเตือนให้เขารำลึกถึงการอพยพออกจากอียิปต์ จะเริ่มด้วยการดื่มไวน์จากถ้วยแห่งพระพร ก่อนอาหาร ในถาดอาหารฝังใจนี้ มีอาหารชนิดต่าง ๆ ซึ่งมีความหมายต่างๆ ในขั้นแรกจะจุดเทียนก่อน ที่เรียกว่าแสงสว่างซับบาส (sabbaslyset) จากนั้นจึงเริ่มรับประทานอาหารของชาวยิว

ถาดอาหารฝังใจ

- Matzah คือ ขนมปังมาทซาห์ไร้เชื้อ เป็นขนมปังแผ่น เมื่อชาวยิวทั้งหลายออกจากอียิปต์ พวกเขาไม่มีเวลารอให้ขนมปังฟู
- Charoset คือไวน์แอปเปิ้ล และ ถั่ว เพื่อรำลึกถึงส่วนผสมของก้อนอิฐที่พวกเขาต้องแบก ตอนทำงานอย่างทาสให้แก่ชาวอียิปต์
- Zroah คือ ขาแกะ หรือปีกไก่ หรือคอไก่ที่ปิ้งหรืออบ ดลใจให้รำลึกถึง แกะที่ถูกสังเวย ในวันก่อนปัสกาในพระวิหารสมัยนั้น
- Chazeret เป็นเครื่องเทศที่มีรสขม หรือผักสลัด ที่รำลึกถึงความขื่นขมที่ได้รับจากชาวอียิปต์
- Beytzah คือ ไข่ต้มแข็ง เป็นสัญลักษณ์ ของเหยื่อสังเวยในวันสำคัญที่นำไป บูชาปัสกาในพระวิหาร
- Karpas คือ ผักชีฝรั่งที่จุ่มลงในน้ำเกลือ เปรียบเสมือนทาสชาวยิวที่ถูกกักขังด้วยน้ำตา ในอียิปต์
- Saltvann คือ น้ำเกลือใช้เป็นน้ำจิ้มสำหรับไข่และผักชี เป็นสัญลักษณ์ของน้ำตาของชาวยิว
ความเป็นมาของวันฝังใจของชาวยิวนี้ มีข้อความอย่างไรนั้น ได้เขียนไว้ในหนังสือที่เรียกว่า ฮักกาดา (Haggadah) ในหนังสือฮักกาดามีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ เกี่ยวกับการเป็นทาสของชาวยิว การออกจากอียิปต์ และการบอกเล่าถึง พิธีการฝังใจ จะต้องทำอย่างไรบ้าง
ในช่วงเวลาค่ำคืนของวันรำลึกถึงสิ่งที่ฝังใจนี้ จากหนังสือฮักกาดา มีทั้งถาดอาหาร และ สิ่งของที่นำมาใช้ ในพิธีการ เป็นสิ่งสำคัญในเทศกาลอีสเตอร์ และทุกบ้านของชาวยิว จะต้องมีถาดนี้เองในการทำพิธี

การเฉลิมฉลองด้วยอาหารฝังใจนี้ มีทั้งส่วนที่รำลึกถึงความทุกข์ยากในช่วงเวลาเลวร้าย ความมืดมน และอีกส่วนหนึ่งคือความรื่นเริง ความยินดีของชาวยิว ที่พวกเขาสามารถหลบหนีออกจากการเป็นทาสได้
